ชาวบุรีรัมย์ฮือฮาพระพุทธรูปโผล่กลางสระน้ำในวัดดัง อ.ปะคำ เล่าลือกันปากต่อปาก แห่กันไปกราบไหว้ขอพรแน่นวัดนับพันคน บางรายพากันตักน้ำในสระใส่ภาชนะกลับบ้านด้วย เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บและปัดเป่าภยันตรายได้ เผยก่อนพบชาวบ้านฝันว่ามีแสงไฟพุ่งจากสระน้ำหลังวัด จึงนำไปเล่าให้สมภารฟัง เมื่อไปตรวจสอบก็พบเศียรพระพุทธรูปโผล่เหนือน้ำ 2 รูป ด้านเจ้าอาวาสระบุเป็นพระสำริด สมัยทวาราวดี อายุกว่า 1,500 ปี เตรียมแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนจากทุกทั่วสารทิศทั้งในและต่างจังหวัดกว่า 1,000 คน ได้พากันหลั่งไหลแห่ไปชมและกราบไหว้พระพุทธรูปเนื้อสำริดจำนวน 2 องค์ หน้าตักกว้างประมาณ 8 นิ้ว สูง 12 นิ้ว ที่วัดโคกงิ้ว ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลังนายเสนอ นาคชลธี อายุ 52 ปี ชาวบ้านพบเศียรพระโผล่กลางสระน้ำภายในบริเวณวัดที่มีปรางค์ปราสาทหินเก่าแก่ตั้งอยู่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณอายุราวกว่า 1,500 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระครูวิบูลญาณสถิต เจ้าอาวาสวัดโคกงิ้ว ได้กั้นเชือกกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปจับต้อง เกรงว่าจะเกิดการชำรุดเสียหาย ส่วนประชาชนที่มาชมและสักการะพระพุทธรูป ต่างพากันตักน้ำภายในสระใส่ภาชนะกลับไปบ้านเนื่องจากเชื่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยให้หายได้ เบื้องต้นทางวัดจะเตรียมประสานให้ทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบว่าพระพุทธรูปที่พบในครั้งนี้สร้างขึ้นในสมัยใด เพื่อจะนำไปเก็บอนุรักษ์ไว้ให้ประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้บูชาต่อไป
ด้านนายเสนอ กล่าวว่าก่อนจะพบพระพุทธรูปสำริดทั้ง 2 องค์ ภรรยาตนฝันเห็นแสงไฟพุ่งอยู่ในสระน้ำหลังวัดโคกงิ้ว เมื่อนำไปเล่าให้เจ้าอาวาสวัดฟังจึงไปตรวจสอบบริเวณสระน้ำด้านท้ายวัด ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของปราสาทหินโคกงิ้ว ปราสาทโบราณสมัยปราสาทหินพนมรุ้ง ปรากฏว่าพบเศียรพระโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เจ้าอาวาสจึงสั่งให้มีการจัดเวรยาม 24 ชั่วโมง และกั้นอาณาเขตไว้ เพราะเกรงว่าจะมีการโจรกรรมเกิดขึ้น
ด้านพระครูวิบูลญาณสถิต กล่าวว่า วัดโคกงิ้วเป็นแหล่งพระโบราณ ซึ่งที่ผ่านมาถูกชาวบ้านแอบขุดเอาพระโบราณไปเป็นจำนวนมาก และบางส่วนชาวบ้านพบเห็นนำมามอบให้วัด จึงสร้างศาลากลางน้ำให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของโบราณสะสมไว้แล้วกว่า 1,000 องค์ ซึ่งพระพุทธรูป 2 องค์ ที่พบครั้งนี้คาดว่าเป็นพระสมัยทวารวดี อายุประมาณ 1,500 ปี ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ผุดขึ้นมาจากพื้นดินลอยขึ้นมาเหนือน้ำให้ประชาชนสักการบูชา และจะคุ้มครองประชาชนชาวอำเภอปะคำให้มีความสุขความเจริญ
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนจากทุกทั่วสารทิศทั้งในและต่างจังหวัดกว่า 1,000 คน ได้พากันหลั่งไหลแห่ไปชมและกราบไหว้พระพุทธรูปเนื้อสำริดจำนวน 2 องค์ หน้าตักกว้างประมาณ 8 นิ้ว สูง 12 นิ้ว ที่วัดโคกงิ้ว ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลังนายเสนอ นาคชลธี อายุ 52 ปี ชาวบ้านพบเศียรพระโผล่กลางสระน้ำภายในบริเวณวัดที่มีปรางค์ปราสาทหินเก่าแก่ตั้งอยู่ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณอายุราวกว่า 1,500 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพระครูวิบูลญาณสถิต เจ้าอาวาสวัดโคกงิ้ว ได้กั้นเชือกกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปจับต้อง เกรงว่าจะเกิดการชำรุดเสียหาย ส่วนประชาชนที่มาชมและสักการะพระพุทธรูป ต่างพากันตักน้ำภายในสระใส่ภาชนะกลับไปบ้านเนื่องจากเชื่อเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคและอาการเจ็บป่วยให้หายได้ เบื้องต้นทางวัดจะเตรียมประสานให้ทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบว่าพระพุทธรูปที่พบในครั้งนี้สร้างขึ้นในสมัยใด เพื่อจะนำไปเก็บอนุรักษ์ไว้ให้ประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้บูชาต่อไป
ด้านนายเสนอ กล่าวว่าก่อนจะพบพระพุทธรูปสำริดทั้ง 2 องค์ ภรรยาตนฝันเห็นแสงไฟพุ่งอยู่ในสระน้ำหลังวัดโคกงิ้ว เมื่อนำไปเล่าให้เจ้าอาวาสวัดฟังจึงไปตรวจสอบบริเวณสระน้ำด้านท้ายวัด ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของปราสาทหินโคกงิ้ว ปราสาทโบราณสมัยปราสาทหินพนมรุ้ง ปรากฏว่าพบเศียรพระโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เจ้าอาวาสจึงสั่งให้มีการจัดเวรยาม 24 ชั่วโมง และกั้นอาณาเขตไว้ เพราะเกรงว่าจะมีการโจรกรรมเกิดขึ้น
ด้านพระครูวิบูลญาณสถิต กล่าวว่า วัดโคกงิ้วเป็นแหล่งพระโบราณ ซึ่งที่ผ่านมาถูกชาวบ้านแอบขุดเอาพระโบราณไปเป็นจำนวนมาก และบางส่วนชาวบ้านพบเห็นนำมามอบให้วัด จึงสร้างศาลากลางน้ำให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของโบราณสะสมไว้แล้วกว่า 1,000 องค์ ซึ่งพระพุทธรูป 2 องค์ ที่พบครั้งนี้คาดว่าเป็นพระสมัยทวารวดี อายุประมาณ 1,500 ปี ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ผุดขึ้นมาจากพื้นดินลอยขึ้นมาเหนือน้ำให้ประชาชนสักการบูชา และจะคุ้มครองประชาชนชาวอำเภอปะคำให้มีความสุขความเจริญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น