โดยเป็นเพศเมียทั้งคู่ หลังได้วัวมาก็ตั้งชื่อวัวทั้งสองว่า นางโขงและนางติ๋ม โดยวัวที่ชื่อนางโขงได้มีการตั้งท้องติดมา หลังจากนั้น 1 เดือน นางโขงมีอาการผิดสังเกตคือไม่ค่อยกินหญ้าและฟาง
นายอุดม กล่าวอีกว่า ต่อมาในช่วงเวลากลางคืนราวตี 1 ก็ได้ยินเสียงร้องของนางโขงดังออกมาจากคอกวัว จึงได้ลุกขึ้นไปดูเห็นนางโขงยืนอยู่เฉยๆ ซึ่งก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกจึงเข้าไปนอนต่อ ช่วงเช้าจะนำวัวทั้งสองตัวออกจากคอกไปกินหญ้า นางโขงก็ไม่ยอมออกมา ได้แต่ยืนอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับที่ไปไหน เห็นผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปดู จึงได้พบสิ่งผิดสังเกตที่ปลายหางของนางโขง
“ทีแรกคิดว่าเป็นกำไรทองติดอยู่ที่ปลายหางจึงได้หยิบมาดู กลายเป็นก้อนเนื้อทีมีสีเป็นทองเป็นรูปวัวตัวเล็กอยู่ภายในก้อนเนื้อ คล้ายเหมือนลูกกรอก ตกอยู่ที่ปลายหางของนางโขง เมื่อได้หยิบก้อนเนื้อดังกล่าวขึ้นมาดูก็ตกใจ เห็นวัวตัวเล็กนิดเดียวขนาดเท่าหัวแม่มืออยู่ภายในก้อนเนื้อ มีอาการครบทุกอย่าง หลังจากนั้นจึงได้ไปชั่งน้ำหนักลูกวัวดู มีน้ำหนัก 3 ขีด พอชาวบ้านทราบข่าว ก็มาดูกันและแนะนำให้เอาตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาใส่โหลยาดองดองด้วยน้ำมันจันทน์ ตนจึงเก็บไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล” นายอุดม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น